วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นักเลงยุค 2499


แดง ไบเล่ย์

แดง ไบเล่ย์ มีชื่อจริงว่า บัญชา สีสุกใส เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2483 ที่ตรอกสลักหิน หรือที่นิยมเรียกว่า ตรอกใบเล่ (เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มน้ำหวานไบเล่) ข้างหัวลำโพง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยเป็นลูกของนางโฉมเจ้าของร้านซักอบรีดและห้องเช่าในย่านนั้น โดยพ่อเสียชีวิตไปก่อนที่แดงจะเกิด
แดงเมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นเป็นหัวโจกของบรรดาวันรุ่นทั้งหลายในยุคนั้น จนมีชื่อเสียงโด่งดังว่า แดง ไบเล่ย์ เนื่องด้วยบรรดานักเลงอันธพาลในยุคก่อน พ.ศ. 2500 นั้นล้วนแต่มีชื่อเรียกขานต่างๆเช่น พจน์ เจริญพาศน์, พัน วังหลัง, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่, แหลมสิงห์, จ๊อด เฮาดี้, แอ๊ด เสือเผ่น, เบ้น เนอร์, พล ตรอกทวาย, เหลา สวนมะลิ เป็นต้น แต่ แดง ไบเล่ ถือเป็นขวัญใจของเหล่าวัยรุ่นตัวจริง เนื่องจากเป็นบุคคลหน้าตาดี กล่าวกันว่า แดง ไบเล่ สามารถกอดคอกับ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจในยุคนั้นได้เลยทีเดียว
ส่วนเรื่องราวชีวิตจริงของ แดง ไบเล่ย์ ที่ต่างจากภาพยนต์ก็คือ แดง ไบเล่ย์ ตัวจริงไม่เคยฆ่าคน ไม่ใช่โจร เป็นเพียงนักเลงวัยรุ่นธรรมดา ส่วนในภาพยนต์ที่บอกว่า แดง ไบเล่ย์ ชอบดื่มเหล้านั้นจริงๆแล้วไม่เคยมีใครเห็น แดง ไบเล่ย์ ดื่มเหล้าเลยสักคน  แถม แดง ไบเล่ย์ ยังชื่นชออบ "มิล์คเชค" ที่สุดอีกต่างหาก
แดง ไบเล่ย์ เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2507 ด้วยวัยเพียง 24 ปี ด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำขณะเดินทางไปชลบุรีเพื่อเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งที่นั่น
ปุ๊ ระเบิดขวด
ปุ๊ ระเบิดขวด มีชื่อจริงว่า นายจำเริญ บุญยดิษฐ์ เป็นนักเรียนโรงเรียนศิริศาสตร์ สีย่าน กทม. มีฉายาเดิมว่า "ปุ๊ ตรอกสาเก"เคยเป็นเพื่อนรักกับ แดง ไบเล่ย์ บู๊เก่งดุดัน ตอนศึก 13 ห้างบางลำพูคนที่ตีกับแดงคือ ปุ๊ กรุงเกษม ไม่ใช่ปุ๊ ระเบิดขวด เพราะตอนนั้นเขายังรักกันดีอยู่ สุดท้ายต้องจบชีวิตเพราะถูก ดำ เอสโซ่ยิงตาย
ปุ๊ ระเบิดขวด ฉายาที่ได้มาทั้งๆที่ไม่เคยใช้ระเบิดขวดเลยสักครั้งในชีวิต
หนังสือพิมพ์รายวันต่างพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งเสนอข่าวกันอย่างอึกทึกครึกโครมทุกฉบับ รายงานข่าวละเอียดยิบเกี่ยวกับกรณี วัยรุ่นสองกลุ่มก่อเหตุรุนแรงขั้นจราจลเข้าประจัญบานกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านที่สะพานขาวและปิดท้ายด้วยระเบิดขวดซึ่งสำแดงอานุภาพร้ายกาจ และขาดไม่ได้ก็คือภาพถ่ายของบรรดาเด็กหนุ่มคะนองเลือดที่จนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ มันถูกตีพิมพ์หราปรากฎโฉมหน้าเป็นที่รู้จักไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปุ๊ ตรอกสาเก หรือชื่อจริงตามทะเบียนสำมะโนครัวว่า จำเริญ บุญยดิษฐ์ ในฐานะที่เป็นหัวโจกนำขบวนนักบู้ฝ่ายรุก แม้จะไม่ใช่คนใช้ระเบิดร้ายแรงถล่มคู่อริ แต่เขาก็ได้ฉายาใหม่จากหนังสือพิมพ์แทนของเดิม นับแต่วันนั้นเป็นต้นมาไม่ว่าฉบับใดก็เรียกเขาด้วยฉายาเดียวกันว่า "ปุ๊ ระเบิดขวด" และมันก็กลายเป็นฉายาติดตัวจนกระทั่งวาระสุดท้ายทั้งๆที่ปุ๊ไม่เคยใช้ระเบิดขวดแม้แต่ครั้งเดียว
                                                            ดำ เอสโซ่
ดำ เอสโซ่ มือขวาของ ปุ๊ ระเบิดขวด เป็นคนที่เรียกว่ารักพวกพ้องมากๆ เป็นนักเลงคุมซ่องย่านสวนมะลิก่อนจะมารู้จักกับปุ๊  พูดน้อย ต่อยหนัก ฉายา "ผู้เงียบขรึม" หลังจากออกจากคุกพร้อมปุ๊ ระเบิดขวด ก็ร่วมกันเปิดซ่องพร้อมกับเพื่อนสนิทคนอื่นๆ แต่ปุ๊เกิดผิดใจกับเพื่อนของดำจึงยิงใส่เพื่อนของดำ ดำจึงยิงปุ๊ตายหลังจากนั้นเจ้าตัวก็โดนอริยิงจนพิการและตายไป
                                                               ปุ๊ กรุงเกษม 
ปุ๊ กรุงเกษม มีชื่อจริงว่า บรรเจิด กฤษณายุทธ ปัจจุบันยังคงมีชีวิตอยู่ เป็นตำนานมีชีวิตและเป็นสามีของคุณแหวน ฐิติมา นักเลงดังจากฝั่งธนฯ คนนี้แหละที่ตีกับพวกของแดง ไบเล่ย์ในศึก 13 ห้างบางลำพู และแต่งหนังสือชื่อ "เดินอย่างปุ๊" ซึ่งบอกเล่าเรื่องเท็จจริงของนักเลงยุคหลังวังทั้งหมด
                                                             แหลมสิงห์
แหลมสิงห์ ไม่เชิงวัยรุ่นเสียทีเดียว เป็นผู้คุมในเรือนจำแต่มาเที่ยวผู้หญิงที่บ้านของแดงบ่อยๆ ก็เลยสนิทกับแม่ของแดง (และทีบอกว่าแม่ของแดง ไบเล่ย์ เป็นโสเภณี แต่เรื่องจริงแม่เขาทำงานบ้านในบ้านของโสเภณีเท่านั้น ในหนังเขาทำเอามาสร้างเรื่องผิดพลาดจนกลายเป็นชีวิตของมาเฟียไป) แม่ของแดงเลยฝากฝังแดงให้แหลมสิงห์ดูแล แหลมสิงห์จึงรักแดงเหมือนน้องแท้ๆ และก็ไม่ได้ตายในงานบวชของแดงเหมือนในหนัง แต่ตายเพราถูกปุ๊ ระเบิดขวดกับดำ เอสโซ่ ตามมาคิดบัญชีเพราะโดนแหลมสิงห์นวดจนน่วมตอนที่ติดคุก
จ๊อด เฮาดี้ 
จ๊อด เฮาดี้ เป็นเพื่อนซี้ของแดง ไบเล่ย์ ที่ได้ฉายาว่าเฮาดี้เพราะสมัยนั้นน้ำอัดลมไบเล่ย์จะคู่กับเฮาดี้ เป็นนักเลงระดับแถวหน้าในยุคนั้นเช่นกัน ปัจจุบันก็ยังคงมีชีวิตอยู่และเป็นศิษย์เก่าช่างกลปทุมวัน
                                                                     เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์

 สุริยัน ศักดิ์ไธสง หรือ "เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์" มีชื่อจริงว่า “ถาวร ภู่ประเสริฐ” เกิดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2481 ที่ กรุงเทพมหานคร เคยศึกษาอยู่โรงเรียนช่างกลปทุมวัน มารดาเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก และบิดาชื่อ "นายผาด" หลังจากนายผาดพ้นโทษจากเรือนจำบางขวางแล้ว สุริยัน ศักดิ์ไธสง หรือ "เปี๊ยก" จึงได้ย้ายจากนนทบุรีมาอยู่กับบิดาที่บ้านพานถม  ระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนช่างกลปทุมวัน   กลุ่มเพื่อนในระแวกนั้นที่เติบโตมาพร้อมๆกับเขามี "แดง ไบเล่" "ปุ๊ ระเบิดขวด" "ดำ เอสโซ่" "แหลมสิงห์" "พล ตรอกทวาย" "พัน หลังวัง" "จบ หลังวัง" "เก๊าตี๋" เมื่อการเรียนไม่สามารถตอบโจทย์ของชีวิตเขาได้ จึงเบนเข็มทิศชีวิตด้วยปณิธานของตน "จะเอาดีในหนทางชั่ว" หลังถูกไล่ออกจากโรงเรียนแล้ว  เมื่อ พ.ศ.2500 เกิดการปฏิวัตรัฐประหารจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ กลุ่มบุคคลเช่นพวกเขา ก็ถูกทางการหมายหัวไปตามๆกัน ก็ต่างแยกย้ายกระจัดกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ อาทิเช่น "นิตย์ บางลำภู" "ล้อ วงเวียน22" "ชัยโพธิ์สามต้น" "ขาว เฉลิมเขตร" "ยูร อินทรี" "สุมาอี้" "เก๊าตี๋" "โอเหล่" "แอ๊ด เสือเผ่น"      

หลังจากร่วมทำธุรกิจเถื่อนกับหมู่เชียร(อดีตตำรวจรถถัง) ที่นิวแลนด์ อู่ตะเภาได้ไม่นาน หมู่เชียรก็ถูกฝ่ายตรงข้ามยิงเสียชีวิต หลังจากงานศพ ทั้งเขาและแดงกับกลุ่มเพื่อนๆ ก็ถูก"ผู้ใหญ่เต็ก" นายทุนใหญ่จากแดนใต้ชักชวนเขามาทำธุรกิจเถื่อนกันอีกครั้ง
ชลบุรีขณะนั้นมีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง จึงถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองกวาดล้างอีกครั้ง และจำต้องแยกย้ายเปลี่ยนที่อยู่อาศัยกันอีก เขาเลือกที่จะกลับไปเยี่ยมหลวงพ่อผู้เป็นบิดาที่วัดปรินายก และถูกเจ้าหน้าทีตำรวจจับกุม
ขณะที่เขาถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำลาดยาวนั้น ก็ได้พบปะเพื่อนฝูงหรือพี่ในวงการนักเลงไม่น้อย (ส่วนหนึ่งจากหนังสือขังเดียวและเส้นทางมาเฟียเขียนโดยสุริยัน ศักดิ์ไธสง)
สุริยัน ศักดิ์ไธสง เสียชีวิตลงด้วยโรคตับแข็งและมะเร็งร่วมด้วย เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2547

พจน์ ช่างกล เป็นนักเลงรุ่นใหญ่จากช่างกลพระนครเหนือที่ฝั่งธนฯ เป็นที่เคารพเกรงใจของพวกรุ่นน้องอย่าง แดง ไบเล่ย์พอสมควร

ปวาฬ หรือจ่าวาฬเป็นนักเลงรุ่นใหญ่กว่าพวกของแดง ไบเล่ย์ ซึ่งปุ๊ ระเบิดขวดเคยไปลูบคมครั้งนึงเลยโดนลูกน้องของจ่าวาฬไล่ยิงเอาแต่รอดมาได้ นักเลงในรุ่นนี้เท่าที่ทราบจะมี เกชา เปลี่ยนวิถี และ ธาดา สู้ทุกทิศ

นี่คือส่วนนึงของนักเลงในยุค พ.ศ. 2499
  

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ความหมายของดอกกุหลาบ


                                                    "ดอกกุหลาบสีแดง" 
ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ สีแดงอ่อน หรือสีแดงสด บ่งบอกถึงการตกหลุมรักหรือแอบปลื้มใครซักคน เป็นสื่อแทนใจเพื่อจะบอกให้รู้ว่ามีคนกำลัง แอบปลื้มอยู่ ส่วนดอกกุหลาบสีแดงเข้ม ถ้ามีใครให้ดอกกุหลาบสีแดง รู้ไว้เลย นะว่าเค้าคนนั้น มีความรักที่สุดแสน จะลึกซึ้ง  มั่นคง และแน่นนปึก เรียกได้ว่าความรักนั้น ไม่มีวันจืดจางไป จากหัวใจ




"ดอกกุหลาบสีชมพู"
เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะว่ามันไม่ได้เป็นความรักที่ลึกซึ้งแค่เป็นเพียงรักที่ฉาบฉวยต้องการเปลี่ยนแปลงเพื่อแสวงหาสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้นเอง


"ดอกกุหลาบสีขาว"
เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิด เลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมา หรือเปล่า 



"ดอกกุหลาบสีส้ม" 
สื่อให้เห็นถึงความสดใส ความเป็นตัวของตัวเอง ของผู้รับ เมื่ออยู่ใกล้แล้วทำให้รู้สึกอบอุ่น และยัง
บ่งบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมาด้วย



"ดอกกุหลาบสีเหลือง"
เป็นตัวแทนแห่งมิตรภาพ และยังสื่อถึงความห่วงใยของผู้ให้ด้วย หลายคนเชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่ใช้สำหรับเยี่ยมคนป่วย แต่จริงๆแล้วก็สามารถให้กับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสพิเศษได้เช่นกัน


"ดอกกุหลาบสีฟ้า" 
เชื่อว่าเป็นดอกไม้ แห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้แห่งความฝันที่สวยงาม และมั่นคงตลอดกาล


"ดอกกุหลาบสีม่วง" 
บางคนคงคิดว่ามันเป็นดอกกุหลาบที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายนึง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข กุหลาบสีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิต การงานได้อีกด้วย


"ดอกกุหลาบสีดำ"
ความหมายของกุหลาบดำ แต่อาจจะลืมไปแล้ว จนมาถึงวันนี้ได้รื้อฟื้นความหมายอีกครั้ง หลายคนคงให้สีดำแทนความเสียใจโศกเศร้า 
แต่ความหมายของกุหลาบสีดำว่าแท้จริงแล้ว ความหมายที่ลึกล้ำ เจ้ากุหลาบดำ นั่นคือ..นิรันดร์ ดังนั้นดอกกุหลาบดำที่หมายถึงรักนิรันดร์ และมันไม่เคยมีจริง

จำนวนดอกกุหลาบ และ ความหมาย ที่แสนจะโรแมนติค  
1 = เธอเป็นหนึ่งเดียวของฉันเท่านั้น  
2 = มีเพียงเธอ กับ ฉัน  
3 = ฉันรักเธอ  
5 = การให้ที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ  
7 = เราจะพบกับเรื่องมงคล 
 8 = ชดเชยวันเวลาที่ขาดหายไป  
9 = อยู่ด้วยกันให้ยืนยาวและมั่นคง 
 11 = รักเธอที่สุด 
12 = ฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน เรารักกัน
 24 = ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลา
 33 = รักกัน 3 ชาติ
 50 = ความรักที่ยืนยาวชั่วนิรันดร
 66 = ความรักของเรา เหมือนสายน้ำไม่เคยหยุดนิ่ง
 100 = เราจะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรด้วยกัน
 101 = รักเรายืนยาวชั่วนิรันดร 
108 = ความรักของฉันจะไม่มีที่สิ้นสุด
 365 = ฉันคิดถึงเธอทุก-ทุกวัน
 999 = รักเธอชั่วฟ้าดินสลา
 1,009 = ฉันรักเธอเพราะเธอเป็นเธอ
 9,999 = แทนความจริงใจทั้งหมดที่ฉันมีให้เธอจากนี้และตลอดไป 
 10,000 = รักเธอเป็นหมื่น-หมื่นปี




วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

10 ปรากฏการณ์ธรรมชาติน่าสนใจ

10 ปรากฏการณ์ธรรมชาติน่าสนใจที่เกิดขึ้นทั่วโลก


           ในโลกใบนี้มีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจให้เราได้รู้สึกฮือฮาและประหลาดใจอยู่มากมาย บางปรากฏการณ์ก็น่ากลัวเหลือร้าย ขณะที่บางปรากฏการณ์ก็งดงามจับใจอย่างไม่น่าเชื่อ และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา บนโลกกลม ๆ ใบนี้ก็มีหลากหลายปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเกิดขึ้น






      1. ปรากฏการณ์ทะเลสาบเขม่าภูเขาไฟที่อาร์เจนตินา ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ภูเขาไฟปูเยฮวยทางตอนใต้ของชิลี ได้ปะทุขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน ส่งผลให้เขม่าภูเขาไฟลอยไปตกในทะเลสาบที่อาร์เจนตินาซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ใกล้เคียง และฝุ่นเหล่านี้ก็ไม่ได้ละลายลงไปใต้น้ำด้วย จึงทำให้ทะเลสาบมีลักษณะอย่างที่เห็น คือเต็มไปด้วยฝุ่นผงจากภูเขาไฟ เปลี่ยนน้ำใสให้กลายเป็นทะเลสาบฝุ่นซะอย่างนั้น



     2. ปรากฎการณ์พายุฝุ่นยักษ์ ที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เมื่อพายุฝุ่นขนาดมหึมาได้โถมตัวเข้ากลืนกินเมืองฟินิกซ์ทั้งเมืองให้จมอยู่ในฝุ่นผง โดยมีรายงานว่าก่อนที่พายุทรายนี้จะโถมซัดเข้ามาในเมือง มันก่อตัวขึ้นสูงถึง 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการถูกพายุพัด แต่ก็ทำให้เมืองทั้งเมืองเป็นอัมพาตไปชั่วคราว เนื่องจากไฟฟ้าดับ ต้นไม้ล้มระเนระนาด และเกิดอุบัติเหตุจากปัญหาเรื่องทัศนวิสัยในบางพื้นที่ ขณะที่ทางการรัฐแอริโซนาได้ออกมาเปิดเผยว่า มันเป็นพายุฝุ่นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพัดผ่านบริเวณนี้เลยทีเดียว

 
      3. ปรากฏการณ์พายุงวงช้างในออสเตรเลีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากเกิดพายุทอร์นาโดใกล้กับชายหาดทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ปรากฏว่าเกิดพายุงวงช้างตามมาติด ๆ โดยปรากฏการณ์นี้เกิดจากมวลอากาศเย็นเคลื่อนที่ผ่านผิวน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า จึงทำให้เกิดลมพัดเป็นเกลียวคลื่น พาละอองน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้า นับเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ยาก และเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ของแถบนี้เลยทีเดียว




      4. ปรากฏการณ์น้ำวนขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น หลังจากเกิดสึนามิในญี่ปุ่นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทั้งโลกต่างให้ความสนใจไปที่ความรุนแรงและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้อยคนจะได้รู้ว่า หลังจากเกิดสึนามิเพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้เกิดปรากฏการณ์น้ำวนขนาดใหญ่ขึ้นในทะเลใกล้ท่าเรือโออาราอิ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดจากการเคลื่อนตัวของน้ำอย่างรวดเร็วทำปฏิกิริยากับชายฝั่งและพื้นทรายใต้ทะเลนั่นเอง


 5. ปรากฏการณ์หิมะตกหนักในทะเลทรายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก บริเวณทะเลทรายในประเทศนามิเบียในทวีปแอฟริกาใต้ เป็นดินแดนทะเลทรายที่มีหิมะตกทุก 10 ปี ในฤดูหนาว แต่ด้วยความแปรปรวนของสภาพอากาศบนโลก ทำให้มันตกลงมาหลังฤดูร้อนเพียงไม่นาน เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญและชาวเมืองมาก แถมหิมะยังตกต่อเนื่องตั้งแต่เช้ายันบ่าย อุณหภูมิต่ำลงมากที่สุดถึง -7 องศาเซลเซียส หนาวสั่นแบบไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะ


 6. ปรากฏการณ์ฟองโฟมพัดเข้าชายฝั่งอังกฤษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขตคลีฟลีย์ เมืองลังคาเชียร์ของอังกฤษ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เมื่อฟองโฟมมหาศาลจากทะเลได้พัดเข้าชายฝั่งทะเล ทำให้เห็นเป็นฟองโฟมคาปูชิโนอย่างที่เห็น ส่วนสาเหตุที่เกิดปรากฏการณ์นี้นั้น ผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่า  มันเกิดจากโมเลกุลไขมันและโปรตีนของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเล ทำปฏิกิริยากันจนกลายเป็นฟองโฟม ก่อนจะพัดเข้าสู่ชายฝั่ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางรายก็ได้ออกมาอธิบายขัดแย้งกันว่า เกิดจากการเน่าเปื่ยของซากพืชซากสัตว์ในทะเล ทำปฎิกิริยากับสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น จนก่อให้เกิดเป็นโฟมเหล่านี้


  7. ปรากฏการณ์ทอร์นาโดไฟในบราซิล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ไม่บ่อย แต่ก็ไม่ได้เว้นช่วงนานนัก มันเกิดจากการที่มีไฟไหม้ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ป่าตามธรรมชาติหรืออะไรก็ตาม จากนั้นมันก็ถูกกระแสลมม้วนตัวขึ้นสู่ที่สูง กลายเป็นทอร์นาโดไฟที่น่ากลัวอย่างที่เห็น


 8. ปรากฏการณ์ใยแมงมุมคลุมต้นไม้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปากีสถานเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว แน่นอน มันเกิดจากการที่แมงมุมนับล้านตัวมาร่วมกันชักใยบนต้นไม้ แต่ทำไมมันต้องมาอยู่บนต้นไม้คราวละเป็นล้านอย่างนี้ล่ะ? เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญเฉลยว่า เจ้าแมงมุมนับล้านเหล่านี้มันหนีน้ำท่วมครั้งใหญ่นั่นเอง เลยจำเป็นต้องมารวมตัวกันในที่สูง ๆ ไว้อย่างที่เห็นนี่แหละ

   9. ปรากฏการณ์เสียงจากทะเลน้ำแข็ง ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้นึกภาพนึกเสียงออก เอาเป็นว่าลองชมคลิปวิดีโอนี้ดูสักหน่อย มันเป็นปรากฏการณ์ที่ความเย็นของน้ำแข็งและน้ำเย็นเฉียบ ทำปฎิกิริยากับสภาพอากาศเบื้องบนที่อุ่นกว่า เลยเกิดเสียงอย่างที่ได้ยินจากคลิปนี้ เหมือนกับเวลาที่เรานำขวดน้ำเย็นปิดฝาเกือบสนิทมาวางไว้นอกตู้เย็นนั่นแหละ


  10. ปรากฏการณ์ไอน้ำบนทะเลดำ เกิดขึ้นในทะเลดำที่อยู่ระหว่างทวีปยุโรปและเอเชียไมเนอร์ ที่เมื่อมันมีอุณหภูมิต่ำมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดไอน้ำลอยขึ้นไปเหนือน้ำ บางครั้งก็งดงามจนเหมือนมีใครเอาน้ำแข็งแห้งไปวางไว้เลยทีเดียวล่ะ

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557

แม่มดสาวหัวใจกุ๊กกิ๊ก

แม่มดสาวหัวใจกุ๊กกิ๊ก




แม่มดสาวหัวใจกุ๊กกิ๊ก (ญี่ปุ่นシュガシュガルーン Shuga Shuga Rūn ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่องและภาพโดย Moyoco Anno ของสำนักพิมพ์โคดันฉะและสร้างเป็นอะนิเมะ ความยาวทั้งหมด 51 ตอนจบ ในประเทศไทย Sugar Sugar Rune ได้รับลิขสิทธิ์จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บงกช และออกจำหน่ายในรูปแบบวีซีดี ลิขสิทธิ์โดย Rose มีทั้งหมด 25 แผ่น

เนื้อเรื่อง

ช็อกโกล่า แม่มดผู้จอมแก่น และ วานิลา แม่มดผู้อ่อนโยน ซึ่งทั้ง2มาจากโลกแม่มด ได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อปฏิบัติภารกิจ นั่นคือการเก็บหัวใจจากมนุษย์ โดยทั้ง 2 ต้องแข่งขันกันเพื่อครอบครองตำแหน่งราชินีแห่งโลกเวทมนตร์ ในระหว่างการแข่งขันทั้ง 2 คนต่างได้เรียนประสบการณ์จากโลกมนุษย์ทั้งด้านดีและด้านร้าย และสิ่งที่เหนือกว่าการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งราชินี นั่นคือ มิตรภาพและน้ำใจ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ความฝันของพวกเธอเป็นจริงได้หรือไม่

ตัวละคร

คาโตะ ช็อกโกล่า (加藤 ショコラ) / ช็อกโกล่า เมเยอร์ (Chocola Meilleure)
เกิด: 13 สิงหาคม
สูง: 150 ซม.
ช็อกโกล่าเป็นเด็กหญิงที่นิสัยร่าเริง รักสนุก และชอบใช้กำลัง มีคำพูดติดปากที่ฟังแล้วชวนสะดุ้งคือ "จะชกให้กระเด็นเลย!"เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น เธอเป็นขวัญใจของเด็กผู้ชายทุกคนในโลกเวทมนตร์ มีความพยายามที่จะเก็บหัวใจแต่ก็ไม่ค่อยสำเร็จนัก เรียกได้ว่า แพ้วนิลาเป็นประจำ แต่สุดท้ายช็อกโกล่าก็ได้เป็นพระราชินี (แต่ในมังงะ ไม่ได้เป็นพระราชินีเพราะต้องฟอกใจให้กล๊าช) และรักกับปิแอร์อย่างมีความสุข และ เป็น พระราชินีของโอกูล ไปตลอดการ (ในอะนิเมะ ช็อกโกล่า จะมีชุดแม่มดสีชมพู) เธอมีความชอบบางอย่างที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร คือ ชอบเล่นไล่จับคน และของกินที่ชอบ คือ ช็อคโกแล็ต และลูกอมกระดูก

ไอสึ วานิลลา(วานิลา) (愛須 バニラ) / วานิลา มิลซ์ (Vanilla Mieux)
เกิด: 13 มีนาคม
สูง: 146 ซม.
เพื่อนสนิทของช็อกโกล่า เป็นลูกของควีนแคนดี้ มีนิสัยขี้อายและใจดี เก็บหัวใจได้อย่างมากมายเพราะหน้าตาที่น่ารัก มีช่วงเวลาที่ทะเลาะกันก็น้อยใจจึงเป็นเจ้าหญิงแห่งโอกูล แต่สุดท้ายก็ดีกัน วนิลลาได้เป็นพระราชินีแต่เสียสละให้ช็อกโกล่าเพราะอยากเปิดร้านเค้กในโลกเวทมนท์ (ในมังงะ วนิลาได้เป็นพระราชินี )(ในอะนิเมะ วนิลา จะมีชุดสีม่วง)


ดุ๊ค (Duke)/พอลวาวูล
เกิด: 26 มีนาคม (30 ปี เทียบกับมนุษย์)
ส่วนสูง: เท่ากล่องบุหรี่
สัตว์เลี้ยงเวทมนตร์ของช็อกโกล่า เป็นกบ (เดิมทีแล้วดุ๊ค เป็นพ่อมด แต่ร่ายคาถาผิด จึงถูกกลายเป็นกบ )และยังเป็นน้องชายของซินนาม่อนและน้าของช็อกโกล่า มีนิสัยชอบแอบหนีเที่ยว หลงตัวเองในบางครั้ง แต่บางครั้งก็ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ช็อกโกล่าได้เหมือนกันคำที่พูดบางตอนเช่น เรื่องเล็กๆเคโระไม่เรื่องใหญ่ๆเคโระทำ

แบลงก้า (Blanca)/ ริวบี้
เกิด: 4 กันยายน
สูง: 8.5 ซม.
สัตว์เลี้ยงเวทมนตร์ของวานิลล่า เป็นหนู (เป็นแม่มดเช่นเดียวกับดุ๊ค เพราะมีความรักให้มนุษย์ จึงต้องอยู่ในร่างหนู เป็นเวลา 100 ปี) มีนิสัยเย่อหยิ่ง เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และมักจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้วานิลลาได้เก็บหัวใจเป็นจำนวนมากๆ โดยบางครั้งมักจะไม่สนวิธีการที่จะใช้ว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่ไหน แต่ก็มีความจงรักภักดีกับวานิลลาเป็นที่สุด

ร็อกกิ้น โรบิน
เกิด: 7 พฤศจิกายน
สูง: 188 ซม.
อาจารย์ที่สอนเวทมนตร์ให้กับช็อกโกล่าและวนิลลา มีนิสัยเจ้าชู้และชอบพูดจาแบบจีบปากจีบคอขี้เก๊ก พอมาอยู่ที่โลกมนุษย์ก็เป็นนักร้องวงร็อกที่ทำให้สาว ๆ บนโลกมนุษย์หัวใจละลายกันมามากต่อมากแล้ว อดีตเคยเป็นทหารองครักษ์คู่กับกราเช่ (ในมังงะ โรบินรักกับชินนาม่อนและได้ตายไปเพราะต้องสู้กับกล๊าช )


ปิแอร์ (Pierre)
เกิด: 27 มกราคม
สูง: 170 ซม.
เด็กหนุ่มหน้าตาดี เป็นเจ้าชายพวกโอกูล ที่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่เด็ก และในอดีตปิแอร์และช็อกโกลาเคยพบและสนิทกันมาก่อน ปีแอร์รักช็อกโกล่าโดยไม่รู้ตัว ในใจของปิแอร์มีหัวใจสองดวงของช็อกโกล่า ซ้อนกันอยู่ ซึ่งใจหนึ่งเป็นสีดำและอีกใจหนึ่งเป็นสีชมพู ทำให้ในตอนหลังปิแอร์ทรยศและช่วยวนและตอนจบก็ได้หมั้นกับช็อกโกล่าเพื่อผสานสองเผ่าพันธ์เป็นหนึ่งเดียว










อูล (Houx) และ โซล (Soul)
เกิด: 6 มีนาคม
สูง: 165 ซม.
พี่น้องฝาแฝดและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของช็อกโกล่า รับหน้าเป็นองครักษ์ให้กับช็อกโกล่า อีกทั้งสองคนยังแอบชอบช็อกโกล่าอีกด้วย

กราเช่ (Glacier)
เกิด: 26 กุมภาพันธ์
สูง: 190 ซม.
เป็นทหารองครักษ์ฝีมือดีประจำโลกเวทมนตร์ และเคยทำงานร่วมกับ ร็อกกิ้ง โรบิน มาก่อน

มิคาโดะ อากิระ (御門 アキラ)
เกิด: 5 ธันวาคม
สูง: 158 ซม.
เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของช็อกโกล่าและวนิลลลา แต่มักจะกล่าวหาช็อกโกล่า ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว และยังเป็นคนแรกที่ช็อกโกล่าได้หัวใจสีเหลือง และสีเขียว มาครอบครองมีสุนัขเลี้ยงชื่อฮิโรชิ

ควีนแคนดี้ (Queen Candy)
เกิด: 8 เมษายน
สูง: 169 ซม.
แม่ของวานิลาและเป็นราชินีประจำโลกเวทมนตร์ มีนิสัยที่อ่อนโยน มองการณ์ไกล ไม่โปรดในการทำสงคราม และมีวิจารณญาณพอตัว

ชินนามอน (ซินนามอน) (Cinnamon)
เกิด: 20 มิถุนายน
สูง: 170 ซม.
แม่ของช็อกโกล่าในอดีตเป็นราชินีแห่งโลกเวทมนตร์ แต่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างเกิดเรื่องกับโอกูล ความจริงแล้วในการทดสอบว่าที่ราชินีเธอได้รับการคัดเลือก แต่ต้องไปสู้กับกลาสทำให้เธอถูกสาปเป็นแมวสีดำที่อยู่กับปิแอร์ คอยช่วยเหลือช็อกโกล่าอย่างลับๆ
ความหมายหัวใจสีต่างๆ

ในชูการ์ชูการ์รูน ได้แบ่งระดับอารมณ์ออกเป็น
หัวใจระดับอารมณ์
หัวใจสีเหลืองแค่ตกใจ มีค่า 5 เอคูล
หัวใจสีส้มรักแรกพบ มีค่า 300 เอคูล
หัวใจสีเขียวมิตรภาพ มีค่า 350 เอคูล
หัวใจสีรุ้งความสุข มีค่า 500 เอคูล
หัวใจสีชมพูรักหวานแหวว มีค่า 1000 เอคูล
หัวใจสีม่วงรักร้อนแรง มีค่า 2500 เอคูล
หัวใจสีฟ้าเคารพนับถือ มีค่า 3000 เอคูล
หัวใจสีแดงเข้มรักแท้ มีค่า 5000 เอคูล
หัวใจสีดำริษยา มีค่า 0 เอคูล
หัวใจขาว(Crystal)บริสุทธิ์



หัวใจสีเหลือง มีชื่อเรียกอีกชื่อคือ หัวใจสีฉิ๊งฉ่อง ซึ่งสีของหัวใจจะคล้ายกับสีของปัสสาวะ

หัวใจสีรุ้งนั้น ได้ปรากฏในการทดสอบช็อคโกล่าและวนิลาจะเห็นแค่วันเดียว

หัวใจสีดำจะถูกช็อคโกล่าผู้เป็นฟิวเตอร์ (ผู้ชำระล้าง) และหัวใจสีดำจะเปลี่ยนเป็นหัวใจสีขาว ในกรณีที่คนที่ถูกสาปเป็นสัตว์เวทย์ได้ไปจะคืนร่างเดิมแต่มีข้อห้ามคือ ห้ามเอ่ยปากขอร้อง